การเฉลิมฉลองในวันขอบคุณพระเจ้าในประเทศไทย

คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับ “วันขอบคุณพระเจ้า”เท่ากับวัน “วันคริสต์มาส” ซึ่งจะมีการจัดเฉลิมฉลองกันไปทั่วโลกอย่างแพร่หลาย แต่ถ้าเป็นคนอเมริการับรองได้ว่าย่อมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะทุกวันพฤหัสที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าขึ้นภายในครอบครัวและคนใกล้ชิดที่มีความสนิทรักใคร่

 

วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) ถือว่าเป็นวันฉลองการเก็บเกี่ยวและแสดงความขอบคุณพระเจ้าเมื่อมีการสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งประเพณนี้เริ่มมีขึ้นในภายหลังจากการอพยพของชาวยุโรปมายังทวีปอเมริกาเหนือด้วยความยากลำบากกว่าจะมีชีวิตอยู่รอดได้ พวกเค้าจึงระลึกถึงในความเมตตาที่พระเจ้ามีให้ หลังจากนั้นก็มีการจัดสืบต่อกันเรื่อยมามาจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งคนอเมริกาจะให้ความสำคัญในวันขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าคนในครอบครัวต้องกลับมาใช้เวลาอยู่ร่วมกันและพร้อมใจกันรับประทานอาหารมื้อใหญ่ มื้อสำคัญนี้ โดยอาหารที่เป็นประเพณีนิยมจัดว่าเป็นอาหารหลักประจำเทศกาลก็คือการกินไก่งวงยัดไส้ (Roast turkey with stuffing) ผลสคอวช ขนมปังข้าวโพด (Corn bread) และซอสแครนเบอร์รี่ (Cranberry Sauce) พายฟักทอง (Pumpkin pie) นอกจากการกินอาหารร่วมกันแล้วชาวอเมริกันยังใจจดใจจ่อที่จะเข้าร่วมชมขบวนพาเหรดที่มีชื่อเสียง อย่างเมืองนิวยอร์ก ก็จะมีขบวนพาเหรดยิ่งใหญ่อลังการของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ มีชื่อว่า เมซีส์เดย์พาเหรด (Macy’s Day Parade)

ส่วนในประเทศไทยนั้นถึงแม้จะไม่ได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่เหมือนกับประเทศอเมริกา เพราะไม่ใช่ประเพณีปฎิบัติของคนไทย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครให้ความสนใจเพราะยังมีคนอเมริกันบางส่วนหรือนักเรียนนอกที่จบมาจากต่างประเทศที่ต้องการจะร่วมพิธีเฉลิมฉลองนี้ เราจึงมักพบเห็นว่าบางร้านอาหารหรือโรงแรมชั้นนำต่างพร้อมใจกันปรุงแต่งเมนูที่สุดแสนจะพิเศษสำหรับเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้านี้ รวมทั้งตามสถานที่คริสตจักรก็มีการจัดพิธีเพื่อระลึกในการขอบคุณพระเจ้าด้วยเช่นกัน

และที่สำคัญในวันรุ่งขึ้นหรือที่เรียกว่าแบล็ค ฟรายเดย์ ก็เป็นวันแห่งการเริ่มต้นจับจ่ายในเทศกาลคริสต์มาส ผู้คนก็จะพากันหลั่งไหลไปซื้อสินค้าที่ลดราคากว่าครึ่งตามห้างร้านต่างๆ ซึ่งเหล่าบรรดาขาช้อปในประเทศไทยเองก็ได้รับอานิสงส์ในส่วนนี้ไปด้วย เพราะถึงจะไม่ได้ไปจับจ่ายถึงอเมริกาแต่สินค้าที่ขายบนโลกออนไลน์ก็พากันลดราคาด้วยเช่นกันจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนจึงต่างเฝ้ารอคอยให้ถึงช่วงเวลาสำคัญนี้ด้วยเช่นกัน