กาแฟ Arabica กับ Robusta แตกต่างกันอย่างไรกันนะ

สำหรับนักดื่มกาแฟมือใหม่อาจเคยได้ยินชื่อของ Arabica กับ Robusta ที่เป็นชื่อสายพันธ์กาแฟกันมาบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้หลายๆคนคงเกิดความสงสัยว่า แล้วเจ้าเมล็ดกาแฟ 2 ชนิดนี้มันมีความแตกต่างกันอย่างไรนะ? คุณอาจจะคิดว่ากาแฟสองสายพันธุ์นี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วกาแฟทั้ง 2 สายพันธุ์นี้มีความแตกต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว

arubica versus

arabica robusta

ลักษณะภายนอก

แค่รูปทรงภายนอกของเมล็ดกาแฟก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนแล้ว โดย Arabica จะเป็นทรงวงรี และเส้นที่อยู่ตรงกลางจะคดเคี้ยว ส่วน Robusta จะมีทรงกลมและเส้นตรงกลางตรง

รสชาติ

Arabica มีกลิ่นหอมละมุน รสชาตินุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าจึงทำให้มันมีคาเฟอีนน้อยกว่า Robusta ประมาณ 2 เท่า ในภาษากาแฟเรียกว่า รสชาติไม่ Full body เท่ากับ Robusta นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมบางคนดื่มกาแฟสดแล้วถึงยังง่วงอยู่อีก เพราะร้านกาแฟสดส่วนใหญ่ จะใช้เมล็ดกาแฟพันธุ์ Arabica 100%

และทำไมคนที่ทานกาแฟกระป๋องแล้วชอบใจสั่น นั่นก็เป็นเพราะว่า กาแฟกระป๋องส่วนใหญ่จะใช้ เมล็ดกาแฟพันธุ์ Robusta นั่นเอง โดย ‘คาเฟอีน’ เป็นสารที่ทำให้กาแฟมีรสขม เพราะฉะนั้น Robusta จึงมีรสชาติเข้มขมกว่า Arabica อีกทั้งยังมีกรด Chlorogenic มากกว่า Robusta โดยกรดเหล่านี้ เป็นทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดการดูดซึม Glucose เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนัก สาวๆที่กลัวอ้วนแนะนำให้ดื่มกาแฟชนิดนี้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เติมน้ำตาลหรือครีมเทียมใดๆลงไปนะคะ สำหรับ Arabica ที่มีความแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ก็จะทำให้เกิดกลิ่น Aroma อันหลากหลาย ทั้งกลิ่น ช็อคโกแลต , ส้ม , ลาเวนเดอร์ รวมทั้งกลิ่นอื่นๆที่หอมหวนชวนดื่ม

Arabica

หาได้ยากกว่า Robusta อีกทั้งลักษณะของลำต้นก็สูงกว่า เป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง ถิ่นกำเนิดอยู่ที่เอธิโอเปีย มักจะอาศัยอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่เป็นหลัก อีกทั้งต้องอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นไม่เกิน 24 องศาตลอดปี จึงจะเติบโตได้ดี ทำให้ต้นทุนการเพาะปลูกสูง สภาพดินต้องร่วนซุย มีหน้าดินลึก สำหรับสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย สามารถพบเห็นได้ที่ภาคเหนือ โดยเป็นเขตที่ราบสูงตลอดจนมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีภูมิคุ้มกันต่อโรคและแมลงต่ำ มีโอกาสตายได้ง่าย จึงทำให้มันมีราคาสูง

Robusta

ดูแลง่าย เจริญเติบโตได้เกือบทุกสภาพอากาศ ทนแดดทนฝนเยี่ยม อีกทั้งจะยิ่งเติบโตได้ดีเมื่อปลูกในพื้นที่ราบ สามารถเจริญเติบโตได้เร็ว ไม่มีปัญหาแห้งตาย เมื่อโตเต็มวัยจะให้ผลผลิตมาก สำหรับประเทศไทย Robusta นิยมปลูกทางภาคใต้ ยิ่งมีแสงแดดมากก็ยิ่งทำให้มันเติบโตได้ดีขึ้น